จากชไมเคิ่ล สู่ฮอยลันด์: ย้อนรอยขุนพลเมืองเดนในแดนปีศาจ
6 กุมภาพันธ์ 2567 340
ราสมุส ฮอยลันด์ กำลังเริ่มโชว์ฟอร์มให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างลงตัวในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยเขาสามารถทำประตูแตะหลักสิบได้แล้วหลังยิงเปิดช่วยให้ทีมเอาชนะเวสต์แฮมไปได้ 3-0 ซึ่งกองหน้าเดนมาร์กคนนี้ก็เริ่มจะพิชิตหัวใจแฟนบอลได้มากขึ้น หลังจากฟอร์มแย่มานานหลายเดือนนับตั้งแต่ย้ายมาจากอตาลันต้าในอิตาลี และก็อาจจะเริ่มทำให้แฟนบอลนึกถึงยอดนักเตะจากเมืองเดนส์คนอื่น ๆ ที่เคยลงเล่นในเสื้อสีแดงฉานของทีม วันนี้ เราจะพาทุกท่านย้อนกลับไปทำความรู้จักกับยอดนักเตะจากประเทศเดนมาร์ก ที่ได้มาสร้างตำนานของตัวเองให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกันครับ
เปิดสถิติฮอยลันด์หลังสอยครบสิบประตู
ราสมุส ฮอยลันด์ ทำประตูที่ 10 ของตัวเองให้กับทีมได้ในการเปิดบ้านเอาชนะเวสต์แฮมไป 3-0 ซึ่งในเกมนั้น เขาได้ทำสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรที่สามารถยิงประตูได้ 4 เกมติดต่อกันในทุกรายการ (สเปอร์ นิวพอร์ต วูล์ฟ เวสต์แฮม) โดยเขามีอายุครบ 21 ปีในวันแข่งขันพอดี ซึ่งเป็นสถิติที่แม้แต่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังไม่สามารถทำได้ด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ ฮอยลันด์ทำไปได้แล้ว 10 ประตูและ 2 แอสซิสต์จากการลงเล่นแตะ 2 พันนาทีเล็กน้อยเท่านั้น แถมยังเป็นดาวซัลโวร่วมในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มอีกต่างหาก เขาทำได้ 5 ประตู เท่ากับเออร์ลิง ฮาแลนด์, อัลวาโร่ โมราต้า และอ็องตวน กรีซมันน์ ส่วนในพรีเมียร์ลีก ถึงจะเพิ่งทำไปได้เพียง 4 ประตู แต่ก็เป็น 4 ประตูจาก 4 เกมล่าสุดที่ลงเล่น ทำให้ตอนนี้ เขามีโอกาสคว้ารองเท้าทองคำในฤดูกาลนี้ขยับขึ้นมาจาก 400/1 จนเหลือแค่ 250/1 แล้ว และใครที่คิดว่าฮอยลันด์จะมีโอกาสทำประตูระเบิดระเบ้อในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล ก็สามารถวางเงินเสี่ยงทายได้ที่เว็บดูผลบอลดีที่สุด 10 เว็บตามรายการนี้ได้เลย
หลังจากพูดถึงฮอยลันด์กันแล้ว เราไปย้อนดูนักเตะเดนมาร์กในประวัติศาสตร์ทีมกันเลยครับ
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล: เบอร์หนึ่งตลอดกาล
ไม่มีแฟนแมนยูคนไหนไม่รู้จักเขา ปีเตอร์ ชไมเคิ่ลคือเบอร์หนึ่งในช่วงรุ่งเรืองครั้งแรกภายใต้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และพาทีมคว้าแชมป์ได้มากมายตลอดระยะเวลา 8 ปีกับสโมสร รวมถึงปิดฉากอาชีพของเขากับแมนยู ด้วยการช่วยทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในปี 1999 ได้อย่างสุดมันส์ที่คัมป์นู โดยชไมเคิ่ลย้ายมาจากทีมในเดนมาร์กอย่างบรอนด์บี้ ด้วยค่าตัวแสนถูกที่ 5 แสนปอนด์เท่านั้น แต่เขากลับสามารถคว้าแชมป์มาได้อย่างคุ้มค่าตัวสุด ๆ ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย เอฟเอคัพ 3 สมัย โล่การกุศล 4 สมัย ลีกคัพ ซูเปอร์คัพยุโรป และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย คงไม่ต้องเถียงกันนะครับว่า ชไมเคิ่ลไม่ได้เป็นเพียงผู้เล่นจากเดนมาร์กที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์โลกฟุตบอลอีกด้วย
เจสเปอร์ โอลเซ่น: ปีกจอมเฟี้ยวประจำยุค 80
แฟนบอลสมัยใหม่อาจจะไม่มีใครจำชื่อโอลเซ่นได้มากนัก หรืออาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อนด้วยซ้ำ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกครับ โอลเซ่นลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ช่วงปี 1984 ถึง 1988 ภายใต้การคุมทีมของรอน แอตกินสัน และเซอร์อเล็กซ์เอง เขาลงเล่นไปทั้งหมด 176 เกม ยิงได้ 24 ประตู ถึงแม้จะไม่มีความเฟี้ยวฟ้าว แต่เขาเป็นตัวเลือกที่ได้รับการไว้วางใจจากผู้จัดการทีมทั้งสองคน แถมยังสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพกับทีมได้ในฤดูกาลแรกอีกด้วย
คริสเตียน เอริคเซ่น: อะไหล่เสริมชั้นดี
ถึงแม้เรื่องราวของเอริคเซ่นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมาบรรจบกันในวันเวลาที่ตัวเขาร่วงโรยและพบเจออุปสรรคครั้งสำคัญในชีวิตมาแล้ว แต่ก็ไม่มีใครตั้งคำถามกับคุณภาพของฟุตบอลที่เขามอบให้กับทีมได้ครับ เอริคเซ่นสร้างชื่อให้กับตัวเองตั้งแต่อยู่อาแจ็กซ์ ก่อนจะย้ายมาสเปอร์สในปี 2014 และกลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่ไม่สามารถช่วยสเปอร์สคว้าแชมป์อะไรได้นอกจากการเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสร หลังจากที่เขาย้ายมาที่ยูไนเต็ดในช่วงฤดูกาล 2022/2023 เขาก็สามารถพาตัวเองเข้ามาเป็นตัวจริงภายใต้เอริค เทน ฮาก ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมช่วยยูไนเต็ดคว้าถ้วยคาราบาวคัพมาได้ และยังได้เข้าชิงเอฟเอคัพอีกด้วย
ดาวเตะเมืองเดนส์คนอื่น ๆ
จอห์น ไซเว่เบก เป็นแบ็คขวาที่ได้ลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นระยะสั้น ๆ ในฤดูกาล 1986-1987 โดยเขาคือผู้เล่นที่ทำประตูแรกภายใต้การคุมทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 1986 ด้วยการปั่นฟรีคิกพาทีมเอาชนะคิวพีอาร์ไปด้วยสกอร์ 1-0
อันเดอร์ส ลินเดอการ์ด เป็นผู้รักษาประตูมือสองภายใต้สองยอดเบอร์หนึ่ง ทั้งเอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ และดาบิด เด เคอา เขาลงเล่นให้กับทีมไป 29 เกม และสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาได้ 1 สมัย
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC